เตรียมตัวสอบกลางภาคโลกดาราศาสตร์ 1

ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับ แร่

      1.  ของแข็งเป็นธาตุหรือสารประกอบที่เกิดตามธรรมชาติโดยกระบวนการทางอินทรีย์

      2.  ของแข็งเป็นธาตุหรือสารประกอบที่เกิดตามธรรมชาติโดยกระบวนการทางอนินทรีย์

      3.  ของแข็งเป็นธาตุหรือของผสมของธาตุที่เกิดตามธรรมชาติโดยกระบวนการทางอินทรีย์และอนินทรีย์

      4.  ของแข็งเป็นธาตุหรือสารประกอบของธาตุที่เกิดตามธรรมชาติหรือสังเคราะห์โดยกระบวนการทาง

           อนินทรีย์

ข้อใดเป็นแร่

      1.  หิมะในทุ่งนา                                     2.  ไข่มุกในหอยมุก

      3.  เกลือในนาเกลือ                                 4.  อำพันจากต้นสน

แร่ในข้อใดไม่เหมาะสมในการนำมาใช้เป็นอัญมณี

      1.  เพชร                                             2.  โทแพช

      3.  ทัลก์                                              4.  คอรันดัม

ข้อใดเป็นแร่ที่มีพันธะเคมีแบบ Ion bond

      1.  เพชร                                              2.  แกรไฟต์

      3.  ทองคำ                                           4.  ฟลูออไรต์

ข้อใดเป็นแร่ที่มีพันธะเคมีแบบ Covalent bond

      1.  เพชร                                               2.  แกรไฟต์

      3.  ทองคำ                                           4.  ฟลูออไรต์

ข้อใดเป็นแร่ที่มีพันธะเคมีแบบ Metallic  bond

      1.  เพชร                                             2.  แกรไฟต์

      3.  ทองคำ                                           4.  ฟลูออไรต์

ข้อใดเป็นแร่ที่มีพันธะเคมีแบบ Van de Waals bond

      1.  เพชร                                              2.  แกรไฟต์

      3.  ทองคำ                                           4.  ฟลูออไรต์

เปลือกโลกภาคพื้นทวีป ประกอบด้วยธาตุใดบ้าง (จำ)

      1.  ซิลิกอน ละซิลิกา                                2.  ซิลิกอน  และอะลูมินา

      3.  เหล็กและทองแดง                               4.  ซิลิกอนและแมคนีเซียม

ข้อใดเป็นหินที่เป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ของ ธรณีภาค (เข้าใจ)

      1.  หินอัคนี  และหินแปร                           2.  หินอัคนี  และตะกอน

      3.  หินแปร  และตะกอน                           4.  หินอัคนี และหินแปรปริมาณเท่ากัน

 ข้อใดเรียงลำดับองค์ประกอบทางเคมีรวมของโลกตามปริมาณมากไปหาน้อยได้ถูกต้อง

      1.  เหล็ก ออกซิเจน ซิลิคอน แมกนีเซียม           2.  ออกซิเจน ซิลิคอน เหล็ก แมกนีเซียม

      3.  ออกซิเจน เหล็ก ซิลิคอน แมกนีเซียม           4.  ซิลิคอน เหล็ก ออกซิเจน แมกนีเซียม

วิชาใดที่ใช้ในการศึกษาโครงสร้างของโลก 

      1.  ธรณีสถิติ                                          2.  ธรณีเคมี

      3.  เศรษฐธรณี                                       4.  ธรณีฟิสิกส์

หลักฐานในข้อใดที่ทำให้น่าเชื่อว่าภายในโลกบางส่วนยังคงเป็นของไหล

      1.  ภูเขาไฟระเบิด                                   2.  แผ่นดินไหว

      3.  ข้อมูลจากหลุมเจาะ                            4.  เปรียบเทียบกับดาวเคราะห์ดวงอื่น

ช่วงชั้นของเหลวภายในโลกคือข้อใด

      1.  ธรณีภาค                                           2.  แก่นโลกชั้นนอก

      3.  เนื้อโลกส่วนบน                                  4.  เนื้อโลกส่วนล่าง

ข้อใดคือหลักฐานที่นักธรณีวิทยาและนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าโลกของเรามีกระบวนการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

      1.  การเกิดแผ่นดินไหว                                    2.  การเกิดภูเขาและภูเขาไฟ

      3.  การปรากฏรอยแตกของแผ่นเปลือกโลก        4.  ถูกทุกข้อ

สาเหตุที่ทำให้เปลือกโลกเคลื่อนที่ คือข้อใด

      1.  การไหลของหินหนืดในชั้นเนื้อโลก               2.  การประทุของหินแข็งในชั้นเปลือกโลก

      3.  การแคลื่นที่ของแร่ธาตุในแก่นโลกชั้นใน        4.  การแทรกตัวขึ้นมาของแร่ธาตุจากแก่นโลกชั้นนอก

ข้อใดไม่ได้เกิดจากการผุพังทางกายภาพ

      1.  ผลึกควอซ์ต                                          2.  การถล่มของหน้าผาหิน     

      3.  การแตกของหินบะซอลต์                        4.  โพรงหินบริเวณริมทะเล

ปัจจัยในข้อใดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกมากที่สุด

      1.  ผลึกควอซ์ต                                          2.  การถล่มของหน้าผาหิน     

      3.  การแตกของหินบะซอลต์                        4.  โพรงหินบริเวณริมทะเล

ข้อใดเป็นแร่ที่มีความวาวแบบเพชร

      1.  ดีบุก                                               2.  แมกนีไทค์

      3.  ควอตซ์                                           4.  มัสโคไวต์

ข้อใดเป็นแร่ที่มีความวาวแบบโลหะ

      1.  ดีบุก                                               2.  แมกนีไทค์

      3.  ควอตซ์                                           4.  มัสโคไวต์

ข้อใดเป็นแร่ที่มีความวาวแบบแก้ว

      1.  ดีบุก                                               2.  แมกนีไทค์

      3.  ควอตซ์                                           4.  มัสโคไวต์

ข้อใดเป็นแร่ที่มีความวาวแบบมุก

     1.  ดีบุก                                               2.  แมกนีไทค์

      3.  ควอตซ์                                           4.  มัสโคไวต์

กลุ่มแร่ที่มีลำดับความแข็งมากที่สุด 3 อันดับแรกคือข้อใด

      1.  Dimond , Quarts, Corundum                2.  Dimond , Corundum,Topaz

      3.  Orthoclase, Apatite,  Corundum           4.  Dimond , Apatite,  Corundum

สมบัติของแมกมาข้อใดที่เป็นตัวกำหนดว่าแมกม่าจะไหลได้ง่าย

      1.  สี                                                    2.  ความหนืด

      3.  ความหนาแน่น                                  4.  ปริมาณแหล็ก

ปัจจัยในข้อใดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกมากที่สุด

      1.  ผลึกควอซ์ต                                      2.  การถล่มของหน้าผาหิน     

      3.  การแตกของหินบะซอลต์                    4.  โพรงหินบริเวณริมทะเล

หินอัคนีพุ สามารถจำแนกออกจากหินอัคนีแทรกซอนได้โดยใช้เกณฑ์ในข้อใด

    1.  สี                                                      2.  ความถ่วงจำเพาะ

    3.  ขนาดของเม็ดแร่                                 4.  องค์ประกอบทางเคมี

คำชี้แจง  ใช้คำตอบต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 26 - 28

1.  Basalt                                           2.  Pumice

3.  Diolite                                           4.  Andesite

ข้อใดเป็นหินอัคนีที่มีซิลิกาออกไซด์ต่ำที่สุด มีรูพรุนมาก บางก้อนลอยน้ำได้

หินอัคนีที่พบใน จ.สระบุรี และนำมาทำเป็นครกหิน

หินอัคนีในข้อใดเกิดร่วมกับการระเบิดของภูเขาไฟอย่างรุนแรง

หินบะซอลต์ ประกอบด้วยแร่อะไรบ้าง

     1.  แร่ควอต์ซ และแร่ไพร๊อกซีน                    2.  แร่ควอต์ซ และแร่เฟลด์สปาร์

     3.  แร่โอลิวีน และแร่ไพร๊อกซีน                     4.  แร่ไพร๊อกซีน และแร่ไมกา

แรใดตอไปนี้เปนแรเดี่ยวที่พบมากที่สุดบนพื้นโลก

     1.  chromium                                            2.  copper

     3.  halite                                                   4.  quartz

เพราะเหตุใดบริเวณภาคใต้โดยเฉพาะจังหวัดระนอง พังงาและภูเก็ตจึงมีแร่ดีบุกมาก

      1.  มีหินไดออไรต์ยุคครีเตเชียส                   2.  มีหินแกรนิตยุคไทรแอสซิก

      3.  มีหินไดออไรต์ยุคไทรแอสซิก                 4.  มีหินแกรนิตยุคครีเตเชียส

หินใดมีความสําคัญกับอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์  

      1.  หินดินดานและหินปูน                            2.  หินดินดานและหินกรวดมน

      3.  หินทรายและหินกรวดมน                       4.  หินปูนและหินทราย

หินใดมีความสําคัญกับอุตสาหกรรมเซรามิก

      1.  หินทรายและหินแกรนิต                         2.  หินปูนและหินไรโอไลต์

      3.  หินดินดานและหินไรโอไลต์                   4.  หินปูนและหินแกรนิต

ธาตุที่พบมากที่สุดบนเปลือกโลกได้แก่ข้อใด

      1.  อะลูมิเนียม เหล็ก                                 2.  อะลูมิเนียม ออกซิเจน

      3. ซิลิคอน ออกซิเจน                                4.  ซิลิคอน แคลเซียม

ทรัพยากรพลังงานในประเทศไทยส่วนมากเกิดในยุคใด

      1.  ยุคเทอร์เชียรี                                      2.  ยุคเพอร์เมียน

      3.  ยุคคาร์บอนิเฟอรัส                               4.  ยุคจูแรสซิก

ไทรโลไบต์ เป็นสัตว์ที่ครองทะเลในยุคแคมเบรียน –ออร์โดวิเชียน สูญพันธ์ในยุคใด

      1.  ยุคดีโวเนียน                                     2. ยุคจูแรสซิก

      3.  ยุคครีเตเชียน                                    4. ยุคเพอร์เมียน

ฟิวซูลินิต เป็นซากดึกดําบรรพ์ ดัชนีที่บ่งชี้อายุใด

      1.  ยุคไทรแอสซิก                                   2.  ยุคแคมเบรียน

      3.  ยุคไซลูเรียน                                      4.  ยุคเพอร์เมียน

คำชี้แจง ใช้ข้อมูลต่อไปนี้สําหรับขอ 38 – 40

          โครงสรางที่สะทอนใหเราเห็นบนพื้นผิวโลกที่เปนแนวสันเขา ที่สูง ทองทะเล ทอง มหาสมุทร ตางเกิดจากปฐมเหตุสําคัญคือกระบวนการภายในโลกของเราซึ่งยังมีความรอนอยูมาก การเคลื่อนตัวของ หินหลอมหรือ  แมกมา ทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวโลกไดมากมาย ลาวาเหลวที่แทรกตัวขึ้นมาตามแนวรอยแตก ลึกใตสมุทร ทําใหเพลต ซึ่งเปนชั้นที่เรียกวา ลิโธสเฟยร(Lithosphere = Crust + Upper Mantle) หรือในกรณีนี้ คือ แผ่นธรณีใตสมุทร (Oceanic Plate) แยกตัวออกจากกันทีละนอยๆ ซึ่งเรียกกระบวนการนี้วา พื้นทะเลขยายตัว  “Sea-floor Spreading” ทําใหเกิดแนวสันเขาหินบะซอลตใตสมุทรเปนแนวยาวมาก และขนานกันเปนคูๆ สันเขา เหลานี้ที่อยูใกลแนวรอยแตกที่สุดจะมีอายุออนที่สุด สวนอีกดานหนึ่งของเพลตที่ถูกขับเคลื่อนไปชนกับเพลตอื่นๆที่ อยูถัดไป ทําใหเกิดการชนกันของเพลต ซึ่งโดยปรกติ เพลตใตสมุทรซึ่งประกอบดวยหินที่ มีสีเขมดําพวกหินบะซอลต ที่มีธาตุ เหล็กและแมกนิเซียม สูง มีความถวงจําเพาะสูงหรือมีความหนาแนนสูงกวาจะจมตัวหมุดลงใตอีกเพลตหนึ่งซึ่ง อาจเปนเพลตพื้นทวีป (Continental Plate) แนวเทือกเขาที่เกิดขึ้นจึงมียอดภูเขาที่สูงขึ้นๆ

กระบวนการเปลี่ยนแปลงเปลือกโลกขางตนเรียกวาอะไร

      1.  กระบวนการเกิดจากภายนอกโลก (Exogenic Process)

      2.  กระบวนการเกิดจากภายในโลก (Endogenic Process)

      3.  กระบวนการเกิดจากน้ำ (Hydrogenic Process)

      4.  ผิดทุกขอ

ขอใดไมไดเปนผลโดยตรงจากกระบวนการขางตน

     1.  การพุงขึ้นมาของน้ำพุรอน                         2.  การทรุดตัวของแผนดินกรุงเทพ

ขอใดที่เปนผลโดยตรงจากกระบวนการขางตน

    1.  การเกิดคลื่นยักษสึนามิ                         

    2.  ยอดเขาเอเวอเรสสูงขึ้นปละ 3-5 ซม.

    3.  เกิดหลุมยุบบริเวณพื้นที่หินปูนในฤดูฝน

    4.  ชายฝงทะเลบางขุนเทียนหายไปเฉลี่ย ปละ 5 เมตร

หินตะกอนเนื้อเม็ด (clastic sedimentary rocks) ที่พบมากที่สุดในโลก คือข้อใด

      1.  limestone                                      2.  mudstone

      3.  sandstone                                     4.  Conglomerate

ตะกอนขนาดเคลย (ดิน) หมายถึงตะกอนที่มีขนาดเท่าใด

      1.  > 2 cm                                          2.  < 1/256 mm

      3.  2-10 mm                                       4.  ¼ - ½ mm

โครงสรางใดในหินตะกอนเนื้อเม็ดที่บงบอกทิศทางการไหลของน้ำในอดีต

      1.  การคัดขนาด (sorting)                           2.  รอยดินแตกระแหง (mud cracks)

      3.  รอยชั้นเฉียงระดับ (cross bedding)           4.  การจัดลําดับขนาดในชั้นหิน (graded bedding)

หินตะกอนเนื้อเม็ด (clastic sedimentary rocks) ถูกจําแนกโดยข้อใด

     1.  ความแข็ง                                        2.  องคประกอบทางเคมี

 ขอใดตอไปนี้ ไมใชหินตะกอน

      1. limestone                                       2. mudstone

      3. slate                                              4. Conglomerate

ขอใดตอไปนี้ ไมใชหินแปร

      1. marble                                           2. arkose

      1. quartzite                                        1. Slate

หินออนเกิดจากการแปรสภาพมาจากหินชนิดใด

      1.  sandstone                                     2.  graywake

      3.  limestone                                      4.  Schist

กระบวนการแปรสภาพของหินที่อยูภายใตอิทธิพลของความรอนและน้ำเปนหลัก

      1.  แบบแปรสัมผัส                                  2. แบบแปรไพศาล

      3.  แบบแปรเฉพาะถิ่น                              4. แบบบดเฉือน

ขอใดไมมีอิทธิพลตอกระบวนการแปรสภาพกลายเปนหินแปร

      1.  temperature                                   2.  pressure

      3.  gravity                                            4.  Fluid activity

หินที่พบมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ข้อใด

      1.  หินอัคนียุคไทรแอสซิก                           2.  หินตะกอนยุคเพอร์เมียน

      3.  หินตะกอนยุคจูแรสซิก-ครีเตเชียส            4.  ตะกอนยุคควอเทอร์นาร์