แบบทดสอบเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน
ให้นักเรียนทำแบบทดสอบตามลิงค์ที่แนบนี้ภายในเวลาที่กำหนด
1. ข้อใดไม่ใช่กลไกในการป้องกันและกำจัดสิ่งแปลกปลอมของร่างกาย
1. การไอ
2. การมีขี้หู
3. การขับเหงื่อ
4. การหลั่งน้ำตา
2. อวัยวะใดต่อไปนี้ไม่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
1. ม้าม ( Spleen )
2. ตับ ( Liver )
3. ต่อมไทมัส ( Thymus Gland )
4. ต่อมน้ำเหลือง ( Lymph nodes )
3. แอนติเจน (antigen) คืออะไร
1. โปรตีนที่อยู่บนผิวเซลล์ของเชื้อโรค
2. สารที่เม็ดเลือดขาวสร้างขึ้นเพื่อกำจัดเชื้อโรค
3. สารที่เชื้อโรคปล่อยออกมาเพื่อกำจัดเซลล์เม็ดเลือดขาว
4. สารที่เกิดขึ้นหลังจากเซลล์เม็ดเลือดขาวกำจัดเชื้อโรคแล้ว
4. เซลล์บีและเซลล์ทีทำงานสัมพันธ์กันลักษณะใด
1. เซลล์บีกระตุ้นเซลล์ทีให้ผลิตแอนติบอดี
2. เซลล์ทีผู้ช่วยกระตุ้นให้เซลล์บีสร้างแอนติบอดี
3. เซลล์บีสร้างแอนติบอดีเพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์ที
4. เซลล์ทีผู้ช่วยสร้างแอนติเจนกระตุ้นการทำงานของเซลล์บี
5. ภูมิคุ้มกันรับมา หมายถึงข้อใด
1. ภูมิคุ้มกันโรคซึ่งมีมาแต่กำเนิด
2. ภูมิคุ้มกันโรคซึ่งมีเฉพาะเชื้อโรค
3. ภูมิคุ้มกันโรคซึ่งสร้างขึ้นครั้งแรกจากสัตว์อื่นหรือคนอื่น
4. ภูมิคุ้มกันโรคที่สัตว์สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานของเชื้อโรค
6. ภูมิคุ้มกันก่อเอง (Active Immunity) จะถูกสร้างขึ้นจากข้อใด
1. มนุษย์ด้วยกัน
2. สัตว์ทดลองบางชนิด
3. เซลล์ของคนใดคนหนึ่ง
4. การเคยเป็นโรคชนิดนั้นมาก่อน
7. การให้ทารกดื่มนมของมารดา ทารกได้รับภูมิคุ้มกันชนิดใด
1. ภูมิคุ้มกันก่อเอง
2. ภูมิคุ้มกันที่รับมา
3. ภูมิคุ้มกันที่ก่อเองและรับมา
4. ไม่ได้รับภูมิคุ้มกัน
8. เด็กชายสมชายเคยเป็นโรคคางทูมมาก่อน แม้จะเล่นคลุกคลีกับเพื่อนที่เป็นโรคคางทูม สมชายไม่เป็นโรคนี้อีก แสดงว่า สมชายมีการสร้างภูมิคุ้มกันแบบใด
1. ภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด 2. ภูมิคุ้มกันจำเพาะ
3. ภูมิคุ้มกันก่อเอง 4. ภูมิคุ้มกันที่รับมา
1. 1 และ 3
2. 1 และ 4
3. 2 และ 3
4. 2 และ 4
9. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. เชื้อเอดส์เกิดจากไวรัส จึงไม่สามารถผลิตวัคซีนป้องกันได้
2. วัคซีน และ เซรุ่ม ที่ผลิตจากเชื้อโรคเดียวกันต้องใช้คู่กัน
3. วัคซีนให้ผลต่อร่างกายน้อยกว่าเซรุ่ม แต่ภูมิคุ้มกันของโรคได้นานกว่าเซรุ่ม
4. วัคซีนและเซรุ่มมีกรรมวิธีผลิตเหมือนกันแต่มีปฏิกิริยาในร่างกายที่ต่างกัน
10. ลักษณะของภูมิคุ้มกันที่ก่อเองเป็นดังข้อใด
1. ร่างกายไม่ได้สร้างขึ้นมาเอง เกิดผลช้า แต่อายุสั้น
2. ร่างกายสร้างขึ้นมาเอง เกิดช้า แต่ผลของการทำงานยาวนาน
3. ร่างกายไม่ได้สร้างขึ้นมาเอง แต่เห็นผลทันที อายุการทำงานาน
4. ร่างกายสร้างขึ้นมาเอง เกิดอย่างรวดเร็ว และปรากฏผลในระยะสั้น
11. สารแอนติบอดี ซึ่งสร้างโดยเม็ดเลือดขาวจะมีการลำเลียงไปในร่างกายโดยข้อใด
1. ซึมผ่านทางเนื้อเยื่อ
2. ระบบหมุนเวียนเลือด
3. ระบบหมุนเวียนน้ำเหลือง
4. ซึมผ่านไปกับของเหลวระหว่างเซลล์
12. ข้อความใดแสดงถึงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
1. นิวรับประทานยาที่แพทย์สั่งจนครบ
2. ปิ๋มหายหวัดได้เองโดยไม่ต้องไปหาหมอ
3. โบใช้แอลกอฮอล์เช็ดรอบปากแผลที่โดนมีดบาด
4. ถูกทุกข้อ
13. วัคซีน คืออะไร
1. แอนติบอดีที่อยู่ในเซรุ่ม
2. แอนติบอดี และ แอนติเจนที่อยู่ในเซรุ่ม
3. เชื้อโรคที่ถูกทำให้อ่อนฤทธิ์หรือตายแล้ว
4. สารพิษและแบคทีเรียสร้างขึ้นและถูกทำให้หมดฤทธิ์ลงแล้ว
14. ข้อใดจัดเป็นเซรุ่ม
1. แอนติเจนที่ได้จากม้า
2. ทอกซอยด์ที่ได้จากม้า
3. แอนติบอดีที่ได้จากกระต่าย
4. เซลล์เม็ดเลือดขาวที่ได้จากกระต่าย
15. นักเรียนคนหนึ่งถูกตะปูตำ ทำให้เกิดโรคบาดทะยัก อาการน่าวิตกกังวล นักเรียนควรได้รับการรักษาโดย
การให้สารใด
1. วัคซีน
2. เซรุ่ม
3. ทอกซอยด์
4. แอนติเจน
16. หลักการทำงานของวัคซีนคืออะไร
1. ใช้ทอกซินกระตุ้นการสร้างเซลล์ทีผู้ช่วย
2. ใช้ทอกซินกระตุ้นการสร้างเซลล์พลาสมา
3. ใช้เชื้อโรคที่แข็งแรงกระตุ้นการสร้างเซลล์ความจำ
4. ใช้เชื้อโรคที่ตายแล้วกระตุ้นการสร้างเซลล์ความจำ
17. วัคซีนกับเซรุ่มต่างกันอย่างไร
1. วัคซีนและเซรุ่มเป็นภูมิคุ้มกันที่รับมา
2. วัคซีนและเซรุ่มเป็นภูมิคุ้มกันที่ก่อเอง
3. วัคซีนเป็นภูมิคุ้มกันก่อเอง เซรุ่มเป็นภูมิคุ้มกันที่รับมา
4. เซรุ่มเป็นภูมิคุ้มกันที่ก่อเอง วัคซีนเป็นภูมิคุ้มกันที่รับมา
18. วัคซีนที่ต้องให้เด็กซึ่งอายุไม่เกิน 10 ปี โดยวิธีหยดให้รับประทานนั้นเป็นวัคซีนป้องกันโรคใด
1. วัณโรค
2. ไอกรน
3. บาดทะยัก
4. โปลิโอ
19. เด็กแรกเกิด- 1 เดือน จะมีการสร้างภูมิคุ้มกันโดยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคใด
1. BCG - วัณโรค
2. OPV – โปลิโอ
3. BCG – โปลิโอ
4. DTP - คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน
20. โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในข้อใดเกิดจากเชื้อโรคที่เข้าไปทำลายเซลล์ความจำ
1. โรคเอดส์
2. โรคภูมิแพ้
3. โรคโปลิโอ
4. โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง
